ประวัติจังหวัดสุราษฎร์ธานี

          ดินแดนบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ที่เรียกว่าอ่าวบ้านดอน ในทุกวันนี้ นักโบราณคดีได้สันนิษฐานไว้ว่า ผู้คนชาวพื้นเมืองอาศัยอยู่กันมาตั้งแต่หนึ่งพันสี่ร้อยปีก่อนแล้ว หรือประมาณพุทธศตวรรษที่ 11 – 12 นั่นเอง ครั้งกระนั้นมีชาวอินเดียแล่นเรือมาถึงเมืองตะกั่วป่าและเดินทางเลาะเลียบลำน้ำตะกั่วป่าไปสู่เชิงเขาหลวงข้ามเขาเดินเลียบริมแม่น้ำหลวงเรื่อยมาจนถึงปากอ่าวบ้านดอน ชาวอินเดียเป็นผู้มีวิชาความรู้เหนือชนพื้นเมือง  จึงได้เผยแพร่วัฒนธรรมของตนไว้ในดินแดนเหล่านี้ สมัยนั้นเป็นเวลาแห่งความรุ่งเรืองของอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งนักโบราณคดีชาวอังกฤษ ดอกเตอร์ควอริตย์ เวลส์ และศาสตราจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม ให้ความเห็นสนับสนุน ว่าศูนย์กลางอาณาจักรศรีวิชัยอยู่ที่บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี

         รอบอ่าวบ้านดอนมีเมืองสำคัญๆ อันเป็นที่มาของจังหวัดสุราษฎร์ธานีในปัจจุบันอยู่หลายเมือง คือเมืองไชยา ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำท่าทองอุแท อยู่ในบริเวณอำเภอกาญจนดิษฐ์ ปัจจุบัน และเมืองคีรีรัฐนิคมตั้งอยู่     ณ ริมฝั่งแม่น้ำพุมดวง ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอคีรีรัฐนิคมในปัจจุบันเมืองทั้งสามนี้เป็นเมืองเก่าแก่อันเป็นต้นกำเนิดของจังหวัดสุราษฎร์ธานีหรือบ้านดอนวันนี้

         “วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2458 วันนี้มีกระแสพระบรมราชองการดำรัสเหนือเกล้า           สั่งผู้แทนเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ให้ประกาศพระราชปรารภเรื่องที่บ้านดอนซึ่งเป็นเมืองไชยาใหม่ แลตั้งที่ว่าการมณฑลชุมพรอยู่นั้น ประชาชนก็คงเรียกว่าบ้านดอนอยู่ตามเดิม และเมืองไชยาเก่า ซึ่งเปลี่ยนเรียกว่า                อำเภอพุมเรียง แต่ราษฎรก็คงเรียกชื่อเดิม เมืองไชยาเป็นไชยาเก่า ไชยาใหม่ สับสนกันไม่เป็นที่ยุติลงในราชการ    จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเมืองที่บ้านดอนใหม่ว่า เมืองสุราษฎร์ธานี เปลี่ยนอำเภอพุมเรียง เรียกว่า        อำเภอเมืองไชยา เพราะเป็นชื่อเก่า”

         ในวันเดียวกันนี้เอง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนนามแม่น้ำหลวงเป็นแม่น้ำตาปี การที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนชื่อเมืองไชยาที่บ้านดอนเป็น “เมืองสุราษฏร์ธานี” ก็เพราะทรงสังเกตเห็นว่า ราษฎรมีกิริยามารยาทเรียบร้อย ตั้งมั่นในศีลธรรมและหลักพระพุทธศาสนา และการที่ทรงเปลี่ยนชื่อแม่น้ำหลวงเป็นตาปีนั้น เล่ากันว่า พระองค์ทรงนำแบบมาจากอินเดีย ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่ง ตั้งต้นจากขุนเขาสัตตปุระ ไหลลงสู่มหาสมุทรอินเดียทางอ่าวแคมเบย์ ชื่อแม่น้ำตาปติ ทางฝั่งซ้ายก่อนที่ แม่น้ำตาปติจะออกปากอ่าวนี้มีเมืองเมืองหนึ่งชื่อเมืองสุรัฎร์ ตั้งอยู่ ด้วยเหตุนี้เมื่อพระองค์ทรงเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นสุราษฎร์ธานี (สุรัฎร์) จึงทรงเปลี่ยนแม่น้ำหลวงเป็นตาปีด้วย

         จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในฐานะจังหวัดที่มีความสำคัญด้านการท่องเที่ยวของประเทศเพราะนับตั้งแต่อาจารย์เดโช บุญชูช่วย ปราชญ์ชาวสุราษฎร์ธานี ได้เขียนบทกลอนในการสัมมนาการท่องเที่ยว 14 จังหวัดภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2525

                               “สุราษฎร์ธานี มีไม่น้อย เกือบร้อยเกาะ

                               พืชพันธุ์เงาะ อร่อย หอยก็ใหญ่

                               ไข่เค็มแดง และแหล่งธรรม น้อมนำใจ

                               คุณเมื่อไร มาอีกครั้ง ตั้งตาคอย”

         ต่อมาได้ถอดบทกลอนนี้เป็นคำขวัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานี “เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ไข่แดง แหล่งธรรมะ” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นคำขวัญที่เชื่อว่ามีคนจำได้มากที่สุด และมีส่วนส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดได้รู้จักแพร่หลายได้ดีทีเดียว